เธอกับฉันเรารักกัน

มีใครบางคนให้คำนิยาม ว่ารักคือความทุกข์

แตกต่างจากฉันที่มองว่ารักคือความสุข

อาจเหนื่อยบางครั้งอาจจะเจ็บบางที

อาจจะยิ้มได้เรื่อยมาแต่ก็ไม่ผิดหวังและไม่เสียใจ

อย่างน้อยฉันเคยได้รัก... เธอ รัก โดยการไม่หวังอะไร

(อย่างน้อย บิ๊กแอส)

แก ออกไปแปบได้ป่ะเสียงดังอ่าแกเหนื่อย กฤตยาภัทรหรือแอล หญิงสาวที่มีแววตามั่นใจ ตอนนี้เธอเหนื่อยล้าเหลือเกินจากกระโดดเต้นในงานคอนเสิรต์บิ๊กแอส เธอตะโกนเรียกหาภัคศินีหรือ เพื่อนสาวที่กำลังสนุกกับงานคอนเสิรต์

เออน่า แกจบเพลงไม่ได้หรอภัคศินียังสนุกอยู่กับการกระโดดโลดเต้นกับวงที่เธอชอบ กฤตยาภัทรพะยักหน้าตอบรับ

หลังจากจบเพลง กฤตยาภัทรเดินหอบร่างภัคศินีที่กำลังโดนฤทธิ์แอลกอฮอลเข้าสิง ออกไปที่ลานนอกผับ

แกดื่มมากไปหรือเปล่ากฤตยาภัทร ถามภัคศินีด้วยความเป็นห่วง

เมาอะไรแก นิยังไม่ถึงขั้นเมานะ ฉันยังโอเคแกถ้าเมาไม่ใช่อย่างนี้ภัคสินียังยืนยันว่าเธอเองยังไม่เมา แต่น้ำเสียงของเธอนั้นไปแล้ว กฤตยาภัทรส่ายหัวพาเธอเดินตรงไปยังที่ลานจอดรถ

แกจะพาฉันกลับหรอภัคศินีเธอยังไม่อยากกลับ เธอยังอยากสนุกอยู่เพราะเธอรู้ดีว่ากลับบ้านไปต้องไปเจอกับเรื่องน่าเบื่อ เพราะเธอโกหกพ่อกับแม่ของเธอว่าเธอจะนอนบอกของกฤตยาภัทร

กลับเถอะแก ถ้ายังอยู่แกจะเมาไปมากกว่านี้นะ ป่ะ ไปนอนบ้านฉันกฤตยาภัทรคะยั้นคะยอ

กลับก็กลับ แต่นอนบ้านแกนะ

เอิ่มกฤตยาภัทรพะยักหัวยืนยัน กฤตยาภัทร หอบร่างเพื่อนสาวที่กำลังเมากัยฤทธิ์แอลกอฮอลไปที่ลานจอดรถ เธอจับเพื่อนสาวของเธอนั้นให้เขาไปนั่งในรถ เพื่อนสาวของเธอเข้าไปนั่งในรถไม่ถึงห้านาที เพื่อนสาวของเธอนั้นก็เผลอหลับไปเสียแล้ว

ฉันว่าแล้วเธอเมา กฤตยาภัทรส่ายหน้า อย่างเข้าใจ กฤตยาภัทรขับรถกลับบ้านเธอเอง

ที่บ้านของเธอ

มาแล้วหรอหึ กว่าจะกลับบ้านแล้วแกบอกว่าจะแอนทรานเข้ามหาลัยไง หน่อยยย ยังจะไปเที่ยวผับเที่ยวบราดึกดื่นอีกนะแกจันทรา แม่ของกฤตยาภัทร อดีตนั่งร้องชื่อดังในในโรงแรมดังในจังหวัดเชียงใหม่

ค่ะ ครั้งหนึ่งชีวิตนะอันนี้ก็ฉลองเรียนจบด้วยแอลไปนอนแล้วนะ หนักวันนี้มิ้นมันมานอนบ้านนะแม่กฤตยาภัทรพูดพร้อมเดินขึ้นบันไดไป

แล้วแกโทรบอกแม่ของมิ้นหรือยังจันทราตะโกนตามหลังกฤตยาภัทร

เดี๋ยว พรุ่งนี้ค่อยบอกอ่ะ แม่ ไม่รู้ว่ามิ้นโทรบอกแม่มันหรือยัง เดี่ยวพามันไปนอนก่อนนะแม่กฤตยาภัทรพูดพร้อมปิดประตูห้อง

เธอรู้สึกเหนื่อยกับการไปเที่ยว เพราะเธอแพ้แสงสปอตไลน์หรือเปล่านั้น เธอไปหยิบผ้าเช็ดตัวชุปน้ำ เช็ดหน้าเพื่อนสาวของเธอที่มีฤทธิ์แอลกอฮอล เธอกับไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเมามายขนาดนี้ กฤตยาภัทรเป็นคนเดียวที่รู้ว่าภัคศินีเป็นอะไร เธอรู้ทุกอย่าง ภัคศินีแอบไปหลงรักรุ่นน้องชั้น ม.5 เธอตั้งใจที่จะสารภาพรักกับรุ่นน้องคนนี้ แต่ยังไม่ทันสารภาพเลย รุ่นน้องคนนี้ก็ดันปฏิเสธ

น้องอาร์ตค่ะ.... พี่มีอะไรจะบอกภัคศินียืนยิ้มเขิลบิดไปบิดมา เอามือไขว่หลังและถือดอกกุหลาบสีขาวที่แสดงถึงความรักอันบริสุทธิ์ น้องอาร์ตมองหน้าหญิงสาวสักตรงหน้าสักครู่ก็ฉุดคิด

ไม่เป็นไรครับผมรู้ ต้องนี้ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้วครับ ขอโทษนะครับผมกับพี่มิ้นเราสองคนเป็นพี่น้องกันได้มั้ยครับ" ชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่ารุ่นน้องคนนี้หนึ่งปฏิเสธด้วยวาจาที่สุภาพ และพยายามไม่ทำให้สาวที่อายุมากกว่าตนนั้นเสียใจ เพราะเขาเองก็รู้ว่าความเจ็บปวดเป็นเช่นไร รุ่นน้องคนนี้ไม่ได้มีคนที่แอบชอบแต่อย่างไรแต่เขาเองปิดกันความรักมานาน นานมากเพราะเขาแอบรักเพื่อนสาวข้างบ้านตอนม.1 ถ้าครอบครัวเธอไม่ย้ายบ้านหนีจากเขาไปเสียก่อน

ได้ค่ะ งั้นรับดอกไม้ของพี่ไปนะภัคศินีได้แต่แสร้งยิ้มทั้งที่ใจตอนนี้อยากจะล้มพับไป

ขอโทษนะครับพี่มิ้น สักวันนึ่งพี่คงจะเจอคนที่ใช่สำหรับพี่อาร์ตกล่าวขอโทษอย่างสุภาพกับหญิงสาวที่ยืนต่อหน้า เขารู้ว่าสาวข้างหน้าชอบเขา ภัคศินียืนมองชายหนุ่นที่ตนเพิ่งสารภาพรักไปเดินจากไปจนลับสายตา

กฤตยาภัทรนั่งมองหน้าเพื่อนสาวที่นอนหลับเพราะฤทธิ์แอลล์กอฮอล์ เธอหยิบอุปกรณ์ผ้าเช็ดหน้าไปซักในห้องน้ำ ...

อีกด้านหนึ่ง ชายหนุ่มอายุราวเลขสี่ผมยาวหยิกดูรุงรัง ภายในใบหน้าของเขามีหนวดเคราเรียงกันอย่างเรียบร้อย ตาตี่เหมือนอาแป๊ะในหนังจีน ดั้งโด่งเป็นสัน เขาสอดส่องดูผ่านกระจกจากรถตู้ที่คุ้นเคยที่พาพวกเขาไปเล่นคอนเสิรต์ตามสถานที่ต่างๆ เขาเห็นผู้หญิงสองคน คนนึงกำลังประครองเพื่อนสาวไปยังรถเบนซ์คันหรู เพื่อนสาวของเธอก็เมาอยู่ เขาไม่ได้จ้องมองสาวที่กำลังเมา แต่ทว่าเขาจ้องมองสาวที่ประครองเพื่อนสาวของเธอมากกว่า เขากับรู้สึกถึงความหนาวเย็นบนร่างกาย ใบหน้าของเธอนั้นช่างสวยงาม ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้สวยไปกว่าหญิงสาวคนอื่นแต่เธอกลับรู้สึกถึงความจริงใจจากแววตา เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาเองไม่อยากจะลุกขึ้นไปใหนทั้งสิ้น เขานั่งเหม่อได้คิดถึงหญิงสาวเมื่อครู่ เขาหวังว่าหญิงสาวคนนี้จะมาดูเขาเล่นคอนเสิร์ตในคืนนี้